ผิวแพ้ง่าย

หลายคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าบางชนิดแล้วเกิดอาการระคายเคืองมักเข้าใจว่าตนเองมี ผิวแพ้ง่าย แต่ในความเป็นจริงอาจเกิดจากการแพ้ส่วนประกอบตัวใดตัวหนึ่งเพียงตัวในผลิตภัณฑ์นั้น ๆ รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ โดยวิธีสังเกตว่าตนเองมี ผิวแพ้ง่าย หรือไม่ ทำได้ดังนี้

  • ผิวแดงง่าย อาการนี้มักเกิดขึ้นทันทีหลังสัมผัสสิ่งกระตุ้น เช่น การใช้โฟมล้างหน้า หรือการปะทะลมแรง แม้ดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่อาจเป็นอาการของผิวแพ้ง่ายจากผื่นผิวหนังอักเสบชนิดโรซาเซีย (Rosacea) ซึ่งเป็นภาวะที่หลอดเลือดฝอยบริเวณใบหน้าแตก ร่วมกับมีตุ่มเล็ก ๆ ขึ้นตามคาง แก้ม และจมูก
  • ผิวหลุดลอกเป็นขุย อาการนี้มักเกิดกับผิวที่ขาดความชุ่มชื้น ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเร่งการผลัดเซลล์ผิว เช่น กรดไกลโคลิก เรตินอยด์ AHA หรือ BHA ในปริมาณมากเป็นเวลานาน
  • แสบผิว ผิวพุพองง่าย ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายนั้นมีเกราะป้องกันผิวที่อ่อนแอและบอบบางกว่าคนทั่วไป อาจทำให้ผิวไวต่อส่วนประกอบ ซึ่งอาจเกิดการระคายเคืองตามมาหลังใช้การผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องสำอาง สารทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เป็นต้น
  • อาการคันจากผิวแห้ง ผิวที่บอบบางไม่เพียงแต่ทำให้ง่ายต่อการระคายเคืองแล้ว แต่ยังอาจส่งผลให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้น้อยลง ทำให้ผิวแห้งกร้านและอาการคันผิวหนังตามมา
  1. ทำความเข้าใจทำไมยังแพ้>>
  2. ปัจจัยภายใน>>
  3. ทดสอบการแพ้ก่อนใช้>>
  4. Aloe vera เจลว่านหางจระเข้>>

ทำความเข้าใจทำไมยังแพ้

Dermatologist-Tested

เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่าผลิตภัณฑ์นั้นผ่านการทดสอบด้านความปลอดภัยต่อผิวหนัง ภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทาง ตามมาตรฐานสากลดังนี้

  • ผ่านการทดสอบภูมิแพ้ผิวหนังจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้ ด้วยการตรวจสารก่อภูมิแพ้แบบมาตรฐาน Patch Test จากกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้จริง
  • ผ่านการทดสอบว่ามีสารประกอบทางการแพทย์ที่เหมาะสมไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
  • ไม่มีสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นอันตรายต่อผิวทารก ผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย
  • ไม่ระคายเคืองผิว ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดผื่นแพ้

Hypo-Allergenic

ผลิตภัณฑ์ที่หลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น น้ำหอม เป็นเครื่องสำอางหรือเวชสำอางที่เมื่อใช้แล้วมีโอกาสที่จะทำให้เกิดการแพ้ได้น้อยกว่า ส่วนใหญ่เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจะมีส่วนผสมของสารเคมี

ปัจจัยภายใน

ผิวแพ้ง่ายนั้นอาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยภายใน อย่างกรรมพันธุ์ที่อาจส่งต่อภาวะผิวหนังที่ผิดปกติ หรืออายุที่เพิ่มขึ้นก็อาจส่งผลให้ความแข็งแรงของผิวลดลงได้ นอกจากนี้ โรคและความผิดปกติทางผิวหนังก็เป็นหนึ่งในปัจจัยภายในที่อาจส่งผลทำให้ผิวแพ้ง่ายได้

  • ผิวหนังอักเสบ

เป็นภาวะที่ทำให้มีอาการคันหรือเกิดผื่นแดงตามผิวหนัง อีกทั้งส่งผลให้เกราะปกป้องผิวบางลงจนเกิดการระคายเคืองจากสิ่งกระตุ้นภายนอกได้ง่าย เช่น น้ำ ความร้อน ความเย็น ความชื้น เป็นต้น

  • ผื่นระคายสัมผัส

ปัญหาผิวหนังอักเสบที่อาจเกิดจากการเผชิญปัจจัยแวดล้อมหรือสัมผัสสารก่อความระคายเคืองในปริมาณมากหรือเป็นเวลานาน เช่น สารเคมี รังสีอัลตราไวโอเลต ความร้อน ความเย็น เป็นต้น อาจก่อให้เกิดผื่นแดง ผิวแห้งแตก และรู้สึกคันตามผิวหนัง บางรายอาจมีเพียงอาการคันปรากฏเท่านั้น

  • ผื่นแพ้สัมผัส

คือผิวอักเสบที่เกิดจากสิ่งกระตุ้นภายนอกร่างกาย เช่น สารเคมีบางชนิดในเครื่องสำอาง ลักษณะคล้ายกับผื่นระคายสัมผัส แต่เกิดขึ้นได้ยากกว่า ทั้งนี้ อาการผื่นแพ้อาจเกิดขึ้นใน 2-3 วัน หลังจากสัมผัสสิ่งกระตุ้น

  • ลมพิษจากการสัมผัส

ลมพิษรูปแบบนี้มีลักษณะเป็นรอยบวมและแดงที่ผิวหนัง มักปรากฏทันทีหลังจากสัมผัสสิ่งกระตุ้นหรือสารก่อภูมิแพ้

  • ผื่นผิวหนังอักเสบชนิดโรซาเซีย

มักเกิดหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวหน้าหรือเครื่องสำอางชนิดเดิมติดต่อกันนานหลายปี ส่งผลให้หลอดเลือดฝอยบริเวณใบหน้าแตก ผิวหน้าบวม แดง แพ้ง่าย และมีตุ่มคล้ายสิว

  • Aquagenic Pruritus

คือโรคผิวหนังที่ส่งผลให้มีอาการคันหลังอาบน้ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำเย็น น้ำอุ่น หรือน้ำอุณหภูมิปกติก็ตาม

  • ผิวแห้ง

อาจเกิดจากพันธุกรรม การรับประทานยา สภาพอากาศที่มีความชื้นต่ำ ผลกระทบจากโรค หรือชำระล้างผิวบ่อยครั้งเกินไป ทำให้ผิวระคายเคือง แพ้ง่าย และมักมีอาการคันร่วมด้วย โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในที่ที่มีอากาศร้อน

  • Cutaneous Mastocytoses

คือภาวะผิดปกติที่ชั้นผิวหนังมีแมสท์เซลล์ (Mast Cells) ในปริมาณมาก เซลล์ชนิดนี้จะปล่อยสารฮิสทามีน (Histamine) ที่กระตุ้นให้เกิดอาการแพ้เมื่อมีสารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกาย ทำให้ผิวมีผื่นแดงและบวม

  • คาร์ซินอยด์ซินโดรม

(Carcinoid Syndrome) คือกลุ่มอาการของโรคมะเร็งคาร์ซินอยด์ ผู้ป่วยมักมีผิวหนังแดงจากเส้นเลือดฝอยขยายตัว ปรากฏร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น ท้องเสีย ปวดท้อง หายใจมีเสียงหวีด ความดันโลหิตต่ำ เป็นต้น

ทดสอบการแพ้ก่อนใช้

เราสามารถทดสอบได้ด้วยการทาบนท้องแขน ถ้ามีอาการแสบ หรือว่าอาหารคัน นั่นหมายถึงเรากำลังแพ้ตัวนั้นอยู่ แต่บางครั้งการทดสอบแบบนี้อาจจะไม่ด้ผลเสมอไป ดังนั้นเมื่อเราได้ทาบนใบหน้าของเราแล้ว สิ่งแรกที่สังเกตได้ง่ายๆเลย ถ้ามีผื่นแดง หรือว่ามีอาการคัน นั่นหมายถึงการแพ้ หรือว่ามสิวขึ้น ไม่ว่าจะสิวเล็ก หรือว่าสิวผด นับว่าเป็นสิว อาการอะไรก็แล้วแต่ที่เราไม่เคยมีมาก่อน ก่อนที่จะใช้เครื่องสำอางนั้นๆ นั่นหมายถึงสัญญาณที่บ่งบอกว่าเราเริ่มแพ้สินค้าตัวนั้นแล้ว สิ่งแรกที่ควรทำคือหยุดการใช้ทันที และพักหน้าไปอย่างน้อย 7 วัน ถ้าอาการเล็กน้อยเราสามารถรักษาเอง ได้ เมื่อหยุดใช้แล้วก็ทาว่านจระเข้

Aloe vera เจลว่านหางจระเข้

สรรพคุณ: ลดการอักเสบ ลดริ้วรอย เหมาะกับผิวหน้า ผิวกายและผิวแพ้ง่าย

วิธีใช้: ใช้ทาบางๆ ให้ทั่วบริเวณผิวหน้า – ผิวกายหลังอาบน้ำเช้า-เย็น และก่อนนอน หรือทาได้บ่อยตามต้องการ

สมุนไพร: AQUA, Aloe vera extract, Carbomer, Triethanolamine, Phenoxyethanol และสมุนไพรอื่นๆ

ขนาด: 200 มล.

เลขที่จดแจ้ง อย. 10-1-6010052073

[หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่เวปไซต์ กรมการแพทย์แผนไทยและกรมการแพทย์ทางเลือก เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจในการรักษา รายละเอียดและสรรพคุณ จัดเรียงข้อมูลไว้ให้ สะดวกและง่ายต่อการค้นหาข้อมูลค่ะ]

สรุป

ผิวแพ้ง่ายเกิดจากปัจจัยภายนอกและภายในที่ต้องระวัง หากใช้แล้วมีอาการแพ้ ควรหยุดใช้ทันที และใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อสุขภาพผิวปลอดภัยไร้สารเคมี