ท้องผูก แบบไหนที่เราต้องรู้ โดยปกติอาการ ท้องผูก จะแบ่งตามลักษณะตามอุจจาระ ได้ 2 ประเภท คือ อุจจาระแบบแข็งและไม่แข็ง สามารถเป็นได้ทั้งวัยเด็กและผู้ใหญ่ ปัจจุบันคนไทยเป็นโรคท้องผูกจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ แปรผันไปกับพฤติกรรมที่ใช้ชีวิตที่รีบเร่ง
ท้องผูกชนิดอุจจาระแข็ง
-
สภาวะไฟเกิน
สาเหตุเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น ดื่มน้ำน้อย กินอาหารรสจัด กินเนื้อสัตว์มาก กลั้นอุจจาระประจำ แพทย์แผนไทยเรียกสภาวะนี้ว่าไฟเกิน น้ำน้อย ทำให้อุจจาระแห้งแข็ง แก้ไขได้โดยจิบน้ำบ่อยๆ เพิ่มปริมาณน้ำในระบบลำไส้ เพิ่มพืชผักในมื้ออาหาร กินอาหารรสเปรี้ยว เช่น มะขาม เพื่อเพิ่มน้ำในลำไส้
ท้องผูกชนิดอุจจาระไม่แข็ง
-
สภาวะลมน้อย
สาเหตุเกิดจากไม่มีลมเบ่งหรือแรงผลักอุจจาระสาเหตุเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น กินแต่อาหารฤทธิ์เย็น ตัวอย่างการกินอาหารฤทธิ์เย็นได้แก่ กินสลัดผักเป็นประจำหลายมื้อ เป็นต้น แพทย์แผนไทย เรียกสภาวะนี้ว่าลมน้อย เพราะไม่มีไฟ ลมน้อยทำให้ไม่มีแรงผลักอุจจาระ เช่น ขิง ข่า กะเพรา พริกไทย เป็นต้น
5 วิธีแก้ท้องผูก
1.รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์
ไฟเบอร์ (Fiber) หรือ เส้นกากใยที่เรารู้จักในอาหารจำพวกผักและผลไม้ เนื่องจากสมัยนี้ในบางคนหรือส่วนใหญ่ไม่ชอบรับประทานอาหารจำพวกผักผลไม้กันมากนัก จึงทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บตามมาต่างๆ นาๆ จากที่สังเกตุได้ก่อนง่ายๆ เลยคือเรื่องของระบบขับถ่ายที่ส่งผลกระทบให้ขับถ่ายลำบาก เมื่อไหร่ร่างกายเราไม่มีมันแล้วล่ะก็ อาจจะสามารถส่งผลที่แย่ในหลายๆ ด้านได้ บางคนอาจจะรับประทานอาหารเสริมที่มีไฟเบอร์เป็นส่วนประกอบแทน เนื่องจากไม่มีเวลาหรือไม่ชอบทานผักและผลไม้ ผู้หญิงเราควรได้รับไฟเบอร์อย่างน้อย 25 กรัมต่อวัน ส่วนผู้ชายนั้นอยู่ที่ 35-40 กรัม แต่คนทั่วไปจะกินกันแค่ 15 กรัมเท่านั้น (ไม่นับอาหารที่มีการใส่ไฟเบอร์เสริม) และทีนี้จะทราบกันได้อย่างไรว่าอาหาร ผักและผลไม้ประเภทไหนยังไงถึงจะมีไฟเบอร์ที่เยอะและพอต่อร่างกายของเราในแต่ละวัน บางประเภทบางอย่างก็ใกล้ตัวหาทานได้ง่ายทั่วไป เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด ข้าวบาร์เลย์ เมล็ดเจีย ถั่วชนิดต่างๆ อะโวคาโด ลูกแพร์ แอปเปิ้ล สาลี่ ราสเบอร์รี่ ผักคะน้า กะหล่ำดาว ขนมปังโฮลวีท มะเดื่อ อัลมอนด์ ถั่วลันเตา บล็อคโคลี่ ถั่วแระ อาร์ติโชก
2.ดื่มน้ำให้มาก ในแต่ละวัน
การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ ช่วยลดความเสี่ยงอาการท้องผูก โดยทั่วไปเราสามารถกะปริมาณน้ำดื่มคร่าว ๆ ได้ว่าควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้วหรือ 1.5 ลิตรต่อวัน อย่างไรก็ตามจากอายุ และวิถีชีวิตของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน เช่น คนที่ออกกำลังกาย สูญเสียเหงื่อ อาจต้องการดื่มน้ำมากกว่าคนทั่วไป
3.ออกกำลังกายเป็นประจำ
การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะทำให้ร่างกายแข็งแรง ระบบภายในร่างกายมีสมดุล ช่วยลดอาการท้องผูกได้ดี ที่สำคัญคือลดภาวะเสี่ยงการมีโรคแทรกซ้อน การออกกำลังกายเสมือนการสร้างเกราะป้องกันโรคต่างๆได้อย่างดีที่สุด
4.เข้าห้องน้ำทันที ที่รู้สึกปวด
ไม่ควรกลั้นเมื่อรู้สึกปวดต้องเข้าห้องน้ำทันที ควรฝึกการถ่ายอุจจาระให้เป็นเวลาจนติดเป็นนิสัย อย่าใช้เวลานั่งถ่ายอุจจาระเกิน 5-10 นาที และหลีกเลี่ยงการออกแรงเบ่งอุจจาระ ที่สำคัญคือการทำจิตใจให้สบาย ลดความเครียดและความวิตกกังวล ซึ่งส่งผลให้ทางเดินอาหารทำงานได้ดีตามปกติ
5.หลีกเลี่ยงการทานยา “ระบาย”
การใช้ยาระบายอาจทำให้เกิดผลไม่พึงประสงค์หรือผลเสียบางอย่างดังกล่าวข้างล่างนี้
-
- ยาระบายทุกชนิด หากใช้เป็นเวลานานมีความเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารและการเสียสมดุลอิเล็กโทรไลต์ในร่างกาย โดยเฉพาะยาที่มีฤทธิ์แรง
- ผลเสียจากการใช้ยาระบายแยกตามกลุ่มได้ดังนี้
-ยาระบายชนิดเพิ่มปริมาณอุจจาระ อาจทำให้ปวดท้อง ท้องอืด อิ่มเกิน อึดอัดในท้อง และมีแก๊สในลำไส้ โดยเฉพาะยาไฟเบอร์ชนิดไม่ละลาย เช่น รำข้าวสาลี
-ยาระบายชนิดเพิ่มน้ำในลำไส้ อาจทำให้ท้องอืด ไม่สบายท้อง มีแก๊สในลำไส้ ท้องเดิน และขาดน้ำ นอกจากนี้พีอีจีทำให้ระคายลำไส้ใหญ่และแล็กทูโลสทำให้คลื่นไส้ สำหรับยาพวกแมกนีเซียมถูกดูดซึมเข้าร่างกายได้เล็กน้อย อาจรบกวนการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ควรหลีกเลี่ยงในผู้ป่วยโรคไตและโรคหัวใจ นอกจากนี้อาจรบกวนการดูดซึมยาอื่นจึงควรรับประทานห่างจากอื่น
-ยาระบายชนิดกระตุ้นการทำงานของลำไส้ อาจทำให้ปวดท้อง ปวดเกร็งท้องรุนแรง ท้องเดิน และการใช้เป็นเวลานานอาจรบกวนระบบประสาทในทางเดินอาหาร ด้วยเหตุนี้จึงมักใช้ยากลุ่มนี้ไม่เกิน 4 สัปดาห์ นอกจากนี้ยามะขามแขกทำให้ปัสสาวะมีสีเข้ม
-ยาระบายชนิดทำให้อุจจาระนุ่ม อาจทำให้ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเดิน และระคายคอขณะรับประทาน
สมุนไพรบ้านหมอละออง แก้ท้องผูก ริดสีดวง ปรับสมดุลลำไส้
-
สรรพคุณ:
สมุนไพรสำหรับผู้มีปัญหาโรคริดสีดวงทวารหนัก มีเลือดไหล มีหัวริดสีดวง จะค่อยๆ ยุบลงไป แก้อาการท้องผูก ขับถ่ายไม่ปกติ ให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ หากทานต่อเนื่องให้ครบระยะที่เป็นอาการต่างๆ จะเข้าสู่ภาวะปกติ
-
วิธีใช้:
ครั้งละ 2-3 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหารเช้าและเย็น
-
สมุนไพร:
เพชรสังฆาต, โกฐกักกรา, อัคคีทวาร, ลูกจันทน์, ใบมะกา, ใบมะขามแขก และสมุนไพรอื่นๆ
ขนาด: 100 แคปซูล
เลขทะเบียนยาที่ G 296/55
[หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่เวปไซต์ กรมการแพทย์แผนไทยและกรมการแพทย์ทางเลือก เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจในการรักษา รายละเอียดและสรรพคุณ จัดเรียงข้อมูลไว้ให้ สะดวกและง่ายต่อการค้นหาข้อมูลค่ะ]สรุป
อาการท้องผูก ดีขึ้นได้ หากปฏิบัติตัวและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทานน้ำให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีกากใยและมีประโยชน์ เพียงเท่านี้ อาการท้องผูก ที่เป็นอยู่ จะค่อยๆดีขึ้นจนเป็นปกติ